จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าธุรกิจโลจิสติกส์นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราที่มากถึง 65%เลยทีเดียว (อ้างอิงจากงานวิจัยForbes) ทั้งนี้อาจจะมาจากหลายปัจจัย เข่น นักลงทุนมีกำลังการลงทุนที่มากขึ้น, มีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ซึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจนั้นมีชื่อเรียกว่า AI ซึ่งถือว่ามาแรงมาก ณ ขณะนี้
AI มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปัญญาประดิษฐ์ ถามว่าตัวนี้มันคืออะไร มันคือเทคโนโลยีหนึ่งที่ช่วยให้เราบริการจัดการข้อมูลได้ง่ายดายมากขึ้น เช่นในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ปัจจุบันมีการบันทึกข้อมูลการทำงานโดยใช้ระบบSensor, barcode, RFID ซึ่งทำงานบนพื้นฐาน Internet of thing ดังนั้นการนำAI มาร่วมใช้ในการทำงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แม่นยำและฉลาดมากขึ้น โดยปัจจุบันมีการนำAIมาประยุกต์กับการทำงานต่างๆ ดังนี้
1. ช่วยในการตัดสินใจแบบ real-time
ส่วนมากธุรกิจโลจิสติกส์มักมีขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนเนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น การเลือกใช้ผู้บริการขนส่งหากเราจะตัดสินใจเลือกใช้ผู้ให้บริการขนส่งสักราย ข้อมูลของผู้ให้บริการขนส่งจะมีให้เลือกตัดสินใจมากมายซึ่งข้อมูลของแต่ละเจ้าอาจจะตรงหรือไม่ตรงตามคุณสมบัติที่เราต้องการ ดังนั้น AI สามารถช่วยให้การตัดสินใจนี้เป็นเรื่องง่าย โดยสามารถช่วยในการวิเคราะห์ คัดเลือกบริษัทที่เหมาะสมในเวลาอันรวดเร็ว เท่านี้ก็สามารถลดความซับซ้อนและระยะเวลาในการทำงานลงไปได้
2. Predictive Analytics (คาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า)
ในการดำเนินงานทางด้านธุรกิจนั้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดๆก็ตาม การทำนายหรือการคาดคะเนล่วงหน้าถือว่าเป็นจุดที่สำคัญในการวิเคราะห์ลูกค้า หากเราทราบแนวโน้มลูกค้าในอนาคต เราก็จะสามารถเตรียมความพร้อมในการทำงานของเราเพื่อจะตอบสนองลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ นอกจากนี้การคาดคะเนในส่วนของความเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายรวมถึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้าได้อีกด้วย
3. สร้างกลยุทธ์การทำงานที่ดีที่สุด
ธุรกิจโลจิสติกส์นั้นประกอบไปด้วยการทำงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคลังสินค้า พาหนะการขนส่ง การดูแลหรือป้องกันความเสียหายต่างๆ ด้วยเหตุนี้ทำให้ข้อมูลในการทำงานนั้นมีมากมายอาจจะก่อให้เกิดความสับสนและซับซ้อนให้แก่คนทำงาน ดังนั้นหากเรานำAIมาช่วยลดขั้นตอนตรงนี้ก็จะทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น รวมถึงทำให้ธุรกิจดำเนินไปบนพื้นฐานความมั่นคงและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและบริษัทได้
แม้ว่ากระแสของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) รวมถึงระบบซอฟแวร์อัตโนมัติจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อโครงสร้างของบุคลากรด้านโลจิสติกส์ในอนาคต “บุคลากร” ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ซึ่งต้องอาศัยความสามารถในการจัดการ การวิเคราะห์ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิงจาก : adpt.news