จากที่มีการเปิดเผยของสื่อต่างประเทศว่า การใส่หน้ากากอนามัยนั้นยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส Covid-19 เนื่องจากหน้ากากอนามัยออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายที่เกิดจากการไอ จาม กระจายตัวออกมาและสามารถแพร่เชื้อไวรัสไปยังคนที่ร่างกายปกติดีได้ ดังนั้นคนที่ “จำเป็น” ต้องใส่หน้ากากอนามัยจริงๆ ก็คือคนที่กำลังป่วย มีไข้ เป็นหวัด ไม่สบายอยู่นั่นเอง คนที่สุขภาพดีไม่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยสามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้จริงๆ ยิ่งถ้าหากสวมใส่อย่างผิดวิธี ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มากขึ้น เพราะผู้สวมใส่อาจเอามือสัมผัสใบหน้าบ่อยขึ้นกว่าเดิม
แม้ว่าแพทย์จากต่างประเทศหลายคนจะยืนยันว่า หน้ากากอนามัยจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ในสังคมไทยมองว่า ประชาชนคนไทยส่วนมากยังขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้หน้ากากอนามัย อีกทั้ง ผู้ป่วยที่เป็นหวัดที่มีอาการไอ หรือจาม น้ำมูกไหล ไม่ยอมสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ก็ยังมีอยู่จำนวนไม่น้อย ดังนั้นในช่วงเวลาที่เรารณรงค์ให้ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีอาการไข้หวัดและต้องออกมาใช้ชีวิตในที่สาธารณะแบบนี้ คนปกติทั่วไปที่อยู่ร่วมกันในพื้นที่ต่างๆ ก็ยังสามารถสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองได้เช่นกัน
เราจึงอยากแนะนำเรื่องของการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดต่อของ Covid-19 จากเพจ ถึงบางอ้อกับหมอเอ ที่ได้คำแนะนำมาจากสมาคมโรคปอดที่เข้าใจได้ง่ายๆครับ
ส่วนในเคสอื่นๆ ถ้าสามารถจัดหาหน้ากากอนามัยมาใส่ได้ เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะใส่เมื่อออกไปที่สาธารณะเพื่อป้องกันตนเองหรือป้องกันผู้อื่น การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเพียงมาตรการหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อ ต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพทั่วไป อาทิ การหลีกเลี่ยงไปที่ชุมนุม การระมัดระวังไม่สัมผัสวัตถุหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของผู้อื่นในที่สาธารณะและหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลเสมอ และการใส่ การถอด หรือการทิ้งหน้ากากอนามัยทุกประเภท ต้องทำให้ถูกวิธีเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อครับ
ที่มา: Dr.Acare