ทำไมการขยายเส้นทางจากแหลมฉบังไปโคราชถึงสำคัญ? จากศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมาที่เป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีหลากหลายอารยธรรม ถือเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่ดีที่กรมทางหลวงเตรียมแผนสร้างมอเตอร์เวย์เชื่อมอีสานสู่ทะเลเส้นทาง “แหลมฉบัง-โคราช” ซึ่งจะลุยเฟสแรกช่วง “แหลมฉบัง-ปราจีนบุรี” พร้อมให้ศึกษาเส้นทางชลบุรี-จันทบุรี เสริมโครงข่ายอีอีซี โดยเตรียมของบประมาณประจำปี 2564 ประมาณ 40 ล้านบาท โดยปัจจุบันเมืองโคราชได้มีการลงทุนจากภาคเอกชนซึ่งได้ทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากมายังจังหวัดหัวเมืองภาคอีสานอย่างโคราช เช่นการค้าปลีก การลงทุนของห้างค้าปลีกเหล่านี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเมืองและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก และยังเป็นตัวบ่งชี้ที่ยังบอกถึงศักยภาพและอนาคตของจังหวัดว่ามีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน
จังหวัดนครราชสีมา มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่ใครๆต่างก็รู้จัก ทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำตก และโบราณสถานสำคัญๆ จึงเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ดึงดูนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าการลงทุนที่ดีภายในจังหวัดให้มีความน่าสนใจมากขึ้น และปัจจุบันได้รับความนิยมของเหล่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาซื้อที่ดินบริเวณแหล่งท่องเที่ยวบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพื่อพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยวให้เห็นมากขึ้น เช่น ปาลิโอ, The Smoke House, Sheep Land, โบนันซ่า เป็นต้น
สำหรับการขนส่งการสร้างมอเตอร์เวย์ “แหลมฉบัง – โคราช” นั้นถือเป็นการเพิ่มเส้นทางการค้าขายได้ดีอีกเส้นทางหนึ่ง เป็นการกระจายสินค้าจากหัวเมืองหลัก ไปยังหัวเมืองทางภาคอีสานเป็นการส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจต่างๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญในอนาคต เพราะมีร้านค้าส่ง ค้าปลีกใหญ่ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น Home Pro, Siam Global House, Tesco Lotus, The Mall , Big C, Makro และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้การค้าขายไม่กระจุกอยู่แค่ในเมืองหลักๆเพียงอย่างเดียว และทำให้การเดินทางเชื่อมโยงภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกใช้เวลาลดลงจาก 5 ชั่วโมง 30 นาที เหลือ 3 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นประตูเชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับทะเลอย่างแท้จริง
ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวได้ให้ความสำคัญด้านการคมนาคมและการเชื่อมต่อไปยังภาคอีสานนั้น ที่ได้พัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา ซึ่งได้พาดผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างเขาใหญ่ อ.ปากช่อง เส้นทางพิเศษหมายเลข 6 จะทำให้ถนนมิตรภาพมีการจราจรคล่องตัวมากขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีมากยิ่งขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้(วันที่18 กุมภาพันธ์ 2563) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ได้กำหนดค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงพิเศษ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมตามระยะทางที่ใช้จริงจากด่านต้นทางถึงด่านปลายทาง โดยมีค่าธรรมเนียมผ่านทางสูงสุดตลอดเส้นทางสำหรับรถยนต์ประเภท 4 ล้อ อยู่ที่ 240 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 10 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 1.25 บาทต่อกิโลเมตร รถยนต์ประเภท 6 ล้อ มีค่าธรรมเนียมสูงสุดตลอดเส้นทาง 380 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 16 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2.00 บาทต่อกิโลเมตร และรถยนต์ประเภทมากกว่า 6 ล้อ มีค่าธรรมเนียมสูงสุดตลอดเส้นทาง 550 บาท ประกอบด้วย ค่าแรกเข้า 23 บาท และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2.88 บาทต่อกิโลเมตร ทั้งนี้ สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีระยะทาง 196 กิโลเมตร ประกอบด้วยด่านเก็บค่าธรรมเนียมจำนวน 9 ด่าน ได้แก่ ด่านบางปะอิน ด่านวังน้อย ด่านหินกอง ด่านสระบุรี ด่านแก่งคอย ด่านมวกเหล็ก ด่านปากช่อง ด่านสีคิ้ว และด่านขามทะเลสอ โดยมีแผนดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2566
ที่มา : thestandard, terrabkk, prachachat